การออกกำลังกายแบบ Interval Trainning เป็นการฝึกแบบเป็นช่วงหนักในระยะเวลาหนึ่ง
และช่วงเบาในอีกระยะเวลาหนึ่ง
.
- ประสิทธิภาพด้านเวลา: เนื่องจากการออกกำลังกายที่หนักในช่วงเวลาหนึ่งค่อนข้างให้ประสิทธิภาพสั้นกว่า การฝึกแบบเป็นช่วงจึงสามารถให้ผลลัพธ์ที่สำคัญโดยใช้เวลาน้อยลงเมื่อเทียบกับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอในสภาวะคงที่แบบเดิมๆ
. - การเผาผลาญแคลอรี่ที่เพิ่มขึ้น: การออกกำลังกายอย่างหนักในระยะเวลาสั้นๆ ช่วงพักจะสร้างเอฟเฟกต์ “การเผาผลาญแคลอรี่” โดยที่ร่างกายของคุณยังคงเผาผลาญแคลอรี่ในอัตราที่สูงขึ้นแม้ว่าการออกกำลังกายจะสิ้นสุดลงแล้วก็ตาม
- สมรรถภาพหัวใจและหลอดเลือดดีขึ้น: การฝึกแบบเป็นช่วงท้าทายหัวใจและปอดของคุณ ส่งผลให้ความทนทานต่อหัวใจและหลอดเลือดดีขึ้น และระบบหัวใจและหลอดเลือดแข็งแรงขึ้น
. - การเผาผลาญไขมันที่เพิ่มขึ้น: การผสมผสานระหว่างช่วงที่มีความเข้มข้นสูงและช่วงพักฟื้นช่วยให้ร่างกายดึงไขมันที่สะสมไว้มาใช้เป็นพลังงาน ส่งเสริมการสูญเสียไขมันและรูปร่างที่เพรียวบางขึ้น
. - ความคล่องตัว: การฝึกแบบเป็นช่วงสามารถปรับให้เข้ากับการออกกำลังกายได้หลากหลายรูปแบบ รวมถึงการวิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ การออกกำลังกายแบบ HIIT และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่มีระดับสมรรถภาพและความชื่นชอบที่แตกต่างกัน
.
โปรดจำไว้ว่า ความสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญเมื่อเป็นการฝึกแบบเป็นช่วง ตั้งเป้าที่จะค่อยๆ เพิ่มความหนัก-เบา และระยะเวลาของช่วงเวลาต่างๆ ของคุณเมื่อเวลาผ่านไป เพื่อท้าทายร่างกายของคุณให้ได้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น